ทส. ร่วมเวทีแถลงผลสำเร็จแก้ภัยแล้งปี 64 พร้อมเดินหน้า 13 มาตรการรับมือฤดูฝน
โพสเมื่อ : 7 มิ.ย. 65 10:17:05

วันที่ 6 มิถุนายน 2565นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปกท.ทส.) มอบหมายให้ นางอรนุช หล่อเพ็ญศรี รองปลัดกระทรวงฯ ร่วมการประชุมแถลงผลงานการบริหารจัดการน้ำฤดูแล้ง ปี 2564/65 และการเตรียมรับมือฤดูฝน ปี 2565 พร้อมรับนโยบายจาก พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ณ ห้องแคทลียา โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพฯ โดย รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับทุกหน่วยงานปฏิบัติงานตามมาตรการรับมือฤดูฝนอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุรับมือสถานการณ์อุทกภัย ซึ่งจะมีการนำผลการจัดทำร่างผังน้ำลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ มาใช้ประกอบการฝึกซ้อมด้วย เนื่องจาก “ผังน้ำ” เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยวางแผนและบริหารจัดการน้ำหลากได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ความสำเร็จในการบูรณาการแก้ไขปัญหาในช่วงฤดูแล้งปี 64/65 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ประเทศไทยไม่มีการประกาศภัยแล้ง ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ปฏิบัติการตามมาตรการและแผนเชิงรุกเพื่อรับมือภัยแล้งที่วางไว้อย่างเคร่งครัด สามารถลดและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากสถานการณ์ภัยแล้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับฤดูฝนปี 65 นี้ รัฐบาลได้กำหนด 13 มาตรการรับมือฤดูฝน โดยเพิ่มเติม 3 มาตรการ คือ การตั้งศูนย์ส่วนหน้าก่อนเกิดภัย การจัดเตรียมพื้นที่อพยพและซ้อมแผนเผชิญเหตุ รวมถึงการตรวจสอบความมั่นคงของพนังกั้นน้ำ เพื่อเป็นเครื่องมือสำหรับการบริหารจัดการน้ำฤดูฝนนี้ และเพื่อให้การบริหารจัดการน้ำฤดูฝนปีนี้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จึงกำชับทุกหน่วยงานปฏิบัติตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝนอย่างเคร่งครัด พร้อมติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากอย่างต่อเนื่อง เพื่อดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุได้อย่างทันท่วงที รวมถึงวางแผนเก็บกักน้ำสำรองทุกแหล่ง ทั้งน้ำผิวดินและน้ำใต้ดินไว้รองรับฤดูแล้งหน้าด้วย
ส่วนการบริหารจัดการน้ำในระดับพื้นที่ ได้กำชับให้คณะกรรมการลุ่มน้ำและอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัด เร่งบูรณาการข้อมูลและสนับสนุนการแก้ไขปัญหาด้านทรัพยากรน้ำในเชิงพื้นที่ รวมถึงให้ทุกหน่วยงานเดินหน้าสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ให้ทุกภาคส่วนได้เข้าถึงข้อมูลด้านทรัพยากรน้ำและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้เครือข่ายภาคประชาชน โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำในชุมชน เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนและขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำของประเทศได้อย่างยั่งยืนต่อไป