"วราวุธ" เตรียมพร้อมรับมือ ไฟป่า หมอกควัน มั่นใจ ปี 65 ดีขึ้นกว่าเดิม พร้อมเดินหน้าแผน 1 สื่อสาร 5 ป
โพสเมื่อ : 13 ธ.ค. 64 10:12:49

วันที่ 10 ธันวาคม 2564 เวลา 13.30 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เป็นประธานตรวจติดตามการเตรียมความพร้อมการป้องกัน แก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ปี 2565 ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ พร้อมด้วย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปกท.ทส.) และคณะผู้บริหารกระทรวงฯ ณ ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน (ส่วนหน้า) ทส. อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยมี นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้การต้อนรับ ร่วมด้วยรองแม่ทัพภาค 3 และรับฟังการรายงานผลการดำเนินงานป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ปี  2564 และการเตรียมความพร้อมการป้องกัน แก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ปี 2565 จากนายจงคล้าย วรพงศธร รองปลัดกระทรวงฯ 

ซึ่ง สถานการณ์ภาพรวม ปี 2564 จากการบูรณาการการทำงานร่วมกันจากทุกภาคส่วน ทำให้จำนวนจุดความร้อน (Hot spot) ลดลง ร้อยละ 52 และจำนวนวันที่ค่า PM2.5 มีค่าเกินมาตรฐานในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ลดลง ร้อยละ 8 

โดย รมว.ทส. ได้มอบแนวทางการเตรียมความพร้อม ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองภาคเหนือ โดยเน้นการดำเนินโครงการ “ชิงเก็บ ลดเผา” อย่างต่อเนื่อง พร้อมตั้งเป้าหมายการเก็บเชื้อเพลิงปีนี้ ไม่น้อยกว่า 3,000 ตัน รวมทั้งการใช้แอปพลิเคชัน Burn Check ในการบริหารจัดการเชื้อเพลิง 

สำหรับการป้องกัน และแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล เตรียมเดินหน้าตามแผนเฉพาะกิจเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษ หมอกควันและฝุ่นละออง ปี 2565 ด้วยมาตรการ 1 สื่อสาร 5 ป้องกัน 3 เผชิญเหตุ ซึ่งเตรียมนำเสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในวันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม 2564 นี้ ก่อนนำเข้า ครม. เพื่อรับทราบต่อไป 

ในส่วนของการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน ในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะป่าพรุควนเคร็ง และพรุโต๊ะแดง ได้เน้นให้มีการตรวจ และรักษาระดับน้ำในป่าพรุ พร้อมกำหนดแผนการรับมือ และเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ อุปกรณ์ และยานพาหนะ ให้พร้อมตลอดเวลา รวมทั้งสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่

ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน เป็นนโยบายสำคัญที่รัฐบาล โดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้ความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนโดยสั่งการให้เร่งบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนโดยเร็ว ซึ่ง รมว.ทส. เชื่อมั่นว่าปี 2565 สถานการณ์จะดีขึ้นกว่าเดิม จุดความร้อน (Hot spot) จะลดลงกว่าปี 2564 ได้อีกร้อยละ 20 ด้วยปัจจัยการทำงานร่วมกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ และการเข้มงวดในการลาดตระเวน โดยเตรียมพร้อมเสริมกำลังพลสลับเปลี่ยนหมุนเวียนหากกำลังพลไม่เพียงพอ รวมทั้งการบูรณาการการทำงานร่วมกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ทั้งนี้ จำเป็นต้องดูสภาพอากาศและปัจจัยสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ในช่วงต้นปีหน้าร่วมด้วย 

อย่างไรก็ตาม รมว.ทส. ได้เน้นย้ำ มาตรการป้องกัน มากกว่าการแก้ไขปัญหา และสิ่งสำคัญ คือ ต้องสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับพี่น้องประชาชน ถึงการดำเนินงานที่เราสามารถทำได้ควบคุมได้ สำหรับปัจจัยที่อยู่เหนือการควบคุม อาทิ หมอกควันไฟป่าจากประเทศเพื่อนบ้าน รัฐบาล และ ทส. ได้มีการประสานงานกับเลขาธิการอาเซียนในการแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง

ในโอกาสนี้ รมว.ทส. พร้อมคณะ ยังได้เยี่ยมชมการสาธิตเครื่องมือและอุปกรณ์การแก้ไขปัญหาไฟป่า อาทิ อุปกรณ์สำรองน้ำดับไฟป่า รถฉีดน้ำดับไฟป่าขนาดเล็ก เครื่องอัดใบไม้ โดยใช้เครื่องยนต์เครื่องเป่าลมดับไฟป่า ปุ๋ยหมักจากกิ่งใบไม้แห้ง อุปกรณ์สำรองน้ำชั่วคราว(เสวียน) รถครัวสนามเคลื่อนที่ และ Kick Off การรณรงค์ประชาสัมพันธ์เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควัน ไฟป่า และฝุ่นละออง PM2.5 ของหน่วยงานในสังกัด ทส. พร้อมมอบเครื่องอุปโภค บริโภคให้กับกำลังพล เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานดับไฟป่า รวมทั้งปล่อยแถวกำลังพล ตลอดจน ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตรวจสภาพการฟื้นตัว ของพื้นที่ป่าจากสถานการณ์ไฟป่าที่ผ่านมา และสภาพป่าในปัจจุบันในพื้นที่อุทยานแห่งชาติสุเทพ - ปุย และอุทยานแห่งชาติศรีลานนา