
ทส.ร่วมกับจังหวัดเชียงราย จัดงาน "ไม้มีค่า ป่าชุมชน คนอยู่กับป่า" พร้อมรับมือแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามการตรวจราชการของนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ในการเป็นประธานเปิดงาน "ไม้มีค่า ป่าชุมชน คนอยู่กับป่า" ณ ศาลากลางจังหวัดเชียงราย
นายโสภณ ทองดี ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะโฆษกกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับ จังหวัดเชียงราย จัดงาน "ไม้มีค่า ป่าชุมชน คนอยู่กับป่า" จากนโยบายรัฐบาลมีแผนและเป้าหมายที่ชัดเจนในการทวงคืนผืนป่า ฟื้นฟูสภาพป่า ส่งเสริมปลูกไม้มีค่า ป่าชุมชน ยึดแนวพระราชดำริให้ประชาชนอยู่ร่วมกับป่าได้ และจัดหาที่ดินให้ประชาชนผู้ส่งเสริมอาชีพสร้างป่าสร้างรายได้ ซึ่งก่อให้เกิดเศรษฐกิจชุมชน ให้คนในชุมชนสามารถพึ่งตนเองได้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้วยการสร้างความสมดุลระหว่างการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน
โดยเมื่อวันเสาร์ที่ 16 มีนาคม 2562 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์) พร้อมด้วย ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายเพื่อติดตาม พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการเดินทางมาเป็นประธานเปิดงาน "ไม้มีค่า ป่าชุมชน คนอยู่กับป่า" มอบนโยบายการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันของจังหวัดเชียงราย และพบปะพูดคุยกับประชาชนชาวจังหวัดเชียงรายและพื้นที่ใกล้เคียงที่มาร่วมงาน โอกาสนี้ พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่ากการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบหนังสือแสดงโครงการป่าชุมชนแก่แก่ผู้แทนป่าชุมชนจำนวน 5 แห่ง โดยมี นายกรัฐมนตรีเป็นประธานสักขีพยาน ณ ศาลากลางจังหวัดเชียงราย มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 2,000 คน
ในการกล่าวเปิดงาน นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญของผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน การแก้ไขหรือลดปัญหาโดยการควบคุมไม่ให้มีการเผาในพื้นที่ป่าอย่างเด็ดขาด ต้องอาศัยความร่วมมือกันอย่างจริงจัง พร้อมทั้งหาแนวทางแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย นอกจากนี้ รัฐบาลกำลังผลักดันกฎหมายป่าชุมชนให้สำเร็จ มีเป้าหมายป่าชุมชนทั่วประเทศ 2 หมื่นกว่าแห่ง พร้อมทั้งขอให้ทุกคนช่วยกันดูแลป่าไม้ ซึ่งประชาชนจะได้จะรับประโยชน์จากการดูแลป่า การเก็บหาของป่า และเกิดรายได้จากป่าชุมชนด้านอื่นๆ นำเข้าเป็นกองทุนของหมู่บ้านได้ นายโสภณ ทองดี กล่าว
ภาพ: กรมป่าไม้, ข่าวและเผยแพร่: อาทิตยา
