พิธีเปิดกิจกรรมรณรงค์การปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับงาช้าง
โพสเมื่อ : 3 มี.ค. 58 09:19:51
เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2558 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นากยกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมรณรงค์การปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับงาช้าง โดยมี พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นางมิ่งขวัญ วิชยารังสฤษดิ์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย คณะผู้บริหารระดับสูงจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมกิจกรรม ณ บริเวณ Dazzle Zone ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิล์ด
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จัดกิจกรรมรณรงค์การปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับงาช้าง โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จัดกิจกรรมรณรงค์การปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับงาช้าง โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้
1) เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการครอบครองและการค้างาช้าง
2) เพื่อให้ประชาชนได้ทราบแนวทางปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมายในเรื่องการแจ้งครอบครองและการค้างาช้าง
3) เพื่อการรณรงค์ให้ชาวต่างชาติงดซื้อสินค้างาช้าง และนำออกนอกประเทศ
4) เพื่อสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ และลดการบริโภคสินค้างาช้าง 5) เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ชาวต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศภาคีอนุสัญญา และคณะกรรมการบริหารอนุสัญญาฯ ได้ตระหนักว่าประเทศไทยมีความมุ่งมั่นและจริงใจต่อการแก้ไขปัญหาการลักลอบค้างาช้างผิดกฎหมายในประเทศ
สำหรับผู้ประสงค์ค้างาช้างที่ถูกกฎหมาย ต้องแจ้งการครอบครองและขออนุญาตค้า ภายในวันที่ 21 เมษายน 2558 โดยท้องที่กรุงเทพมหานคร แจ้งการครอบครองที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และท้องที่ต่างจังหวัดแจ้งการครอบครองได้ที่ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 – 16 หรือทางไปรษณีย์ที่ ตู้ ปณ.555 ปณศ.จตุจักร กทม.10900 สามารถดาวน์โหลดแบบแจ้งการครอบครองที่เว็บไซต์ www.dnp.go.th สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ สายด่วน 1362 หรือโทร 098 950 5436, 088 206 1223, 099 563 6688 ตลอด 24 ชั่วโมง และโทร/โทรสาร 02 579 4621, 02 2561 4838 ในวันและเวลาราชการ ทั้งนี้ ผู้ฝ่าฝืน ไม่แจ้งการครอบครองงาช้างบ้านต่อเจ้าหน้าที่มีโทษปรับไม่เกิน 3,000,000 บาท และร้านค้างาช้างมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข่าวเด่นในกระทรวงอื่นๆ :
