
ทส. โดย ปม. จัดชุดปฏิบัติการพิเศษเหยี่ยวไฟ พร้อมดับไฟนำเทคโนโลยีสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) หาพิกัดจุดเ
โพสเมื่อ : 12 ก.พ. 58 09:00:14
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2558 ณ ศาลากลางจังหวัดลำปาง พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดโครงการรณรงค์ "ไม่เผาป่า รักษาธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์” พร้อมทั้งชมการสาธิตดับไฟป่าด้วยเฮลิคอปเตอร์ อีกทั้งปล่อยขบวนรถเคลื่อนที่รณรงค์ประชาสัมพันธ์ ไปตามเส้นทางหลักของถนนเมืองลำปาง เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนได้ความรู้ ความเข้าใจ และตระหนักถึงปัญหาและผลกระทบจากไฟป่า และหมอกควันที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการร่วมมือกันในการป้องกันและควบคุมไฟป่า โดยในโอกาสนี้นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวให้การต้อนรับ/นายสมชัย มาเสถียร รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวรายงาน นอกจากนี้นายสุนันต์ อรุณนพรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวง พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูงในสังกัดร่วมเป็นเกียรติในงานดังกล่าวกว่า 1,000 คน
พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวภายหลังเปิดงานโครงการรณรงค์ "ไม่เผาป่า รักษาธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์” จากสถานการณ์ปัญหาหมอกควันที่เกิดจากไฟป่าใน 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้แก่ จังหวัดลำปาง จังหวัดแพร่ จังหวัดน่าน จังหวัดลำพูน จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดตาก จังหวัดพะเยา จังหวัดเชียงราย และจังหวัดเชียงใหม่ สาเหตุสำคัญมาจากปัญหาไฟป่า การเผาในที่โล่ง และพื้นที่เกษตรกรรม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพของประชาชน ทางด้านเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นระหว่างช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายน ของทุกปีทำให้หน่วยงานด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หันมาร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการร่วมกันแก้ไขปัญหาสถานการณ์ไฟป่า โดยเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2558 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงมหาดไทย ได้ Kick off เปิดโครงการรณรงค์ไม่เผาป่า ลดหมอกควัน ประจำปี 2558 ณ อุทยานหลวง ราชพฤกษ์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทั้งประชุมเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติงานควบคุมไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในการประชุมในครั้งนั้น โดยหนึ่งในหน่วยงานที่เข้าร่วมในการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน ได้แก่กรมป่าไม้ที่ได้ดำเนินการด้านการป้องกันมาอย่างต่อเนื่องและหาแนวทางการรับมือเพื่อเป็นการบรรเทาสถานการณ์ไฟป่าให้ลดลงในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบน
นายสมชัย มาเสถียร รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวต่อว่า ในส่วนของกรมป่าไม้ได้ประชุมหารือเพื่อวางแผนมาตรการในการป้องกันและควบคุมไฟป่า ปีงบประมาณ 2558 โดยกรมป่าไม้ได้เตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ แยกเป็น
1. การเตรียมความพร้อมในการควบคุมไฟป่า ให้กับเจ้าหน้าที่ศูนย์ส่งเสริมการควบคุมไฟป่า 5 ศูนย์ ศูนย์ฝึกอบรมการป้องกันและควบคุมไฟป่า 4 ศูนย์ และหน่วยส่งเสริมการควบคุมไฟป่า 52 ศูนย์ ในการจัดชุดเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ไฟป่า ร่วมถึงชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่า (ชุดเหยี่ยวไฟ) ที่ได้รับการฝึกอบรมพิเศษในการปฏิบัติงานด้านการป้องกันไฟป่าโดยเฉพาะ นอกจากด้านบุคลากรที่กรมป่าไม้ได้เพิ่มศักยภาพในการปฏิบัติหน้าที่แล้ว กรมป่าไม้ยังได้เตรียมในเรื่องของยานพาหนะและอุปกรณ์ดับไฟป่า เช่น รถดับเพลิง มอเตอร์ไซด์วิบาก วิทยุสื่อสารติดรถยนต์ เครื่องมือหาพิกัดดาวเทียม (GPS) วิทยุมือถือติดตามตัว เพื่อสะดวกต่อการเข้าพื้นที่ในการปฏิบัติงาน นอกจากนี้แล้ว กรมป่าไม้ได้ออกประกาศกรมป่าไม้ เรื่อง กำหนดมาตรการในการป้องกันไฟป่าและควบคุมหมอกควัน และการห้ามเข้าบุกรุกยึดถือครอบครองพื้นที่ป่าที่เสียหายจากการเกิดไฟป่า เพื่อให้เจ้าหน้าที่ยึดถือและปฏิบัติโดยเคร่งครัด
2. การสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการควบคุมไฟป่า ในปี 2558 กรมป่าไม้ ได้ดำเนินการสร้างเครือข่ายฯ จำนวน 100 ข่าย ได้มอบเงินอุดหนุนให้กับหมู่บ้านเครือข่ายในการป้องกันไฟป่า จำนวน 100 โดยเครือข่ายความร่วมมือในการควบคุมไฟป่า มีภารกิจหลักประกอบด้วย การจัดทำข้อมูลพื้นฐาน การประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ การจัดซื้ออุปกรณ์ดับไฟป่า การจัดหาอาสาสมัครควบคุมไฟป่า การฝึกอบรมอาสาสมัครควบคุมไฟป่า และการดำเนินการควบคุมไฟป่า โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยส่งเสริมการควบคุมไฟป่าของกรมป่าไม้ ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงในการให้ความรู้และฝึกทักษะในการปฏิบัติงานป้องกันและควบคุมไฟป่า
ทั้งนี้กรมป่าไม้ได้ประสานงานกับเครือข่ายฯ ที่สร้างแล้วในปีงบประมาณ พ.ศ. 2556-2557 จำนวน 200 เครือข่าย ให้ดำเนินการช่วยสอดส่องดูแลในพื้นที่ของตนเองอย่างต่อเนื่องต่อไป
3. การจัดทำแนวกันไฟ มีการจัดทำแนวกันไฟ ในพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าหรือเกิดไฟป่าซ้ำซ้อนทั่วประเทศ จำนวน 3,500 กิโลเมตร ทั้งนี้ยังเปิดอบรมให้กับเครือข่ายฯ ในการให้ความรู้ในการจัดทำกล่องลดปริมาณเชื้อเพลิง ที่ได้จากเศษใบไม้แห้ง กิ่งไม้แห้ง ดิน และน้ำ เพื่อเก็บไว้ใช้เป็นปุ๋ยต่อไป
4. ดำเนินการประชาสัมพันธ์ทุกรูปแบบ
4.1 โครงการรณรงค์ "ไม่เผาป่า รักษาธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์” โดยจัดขบวนรณรงค์ประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่ไปใน 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ตลอดช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2558 โดยเริ่มปล่อยขบวนรณรงค์ที่ จังหวัดลำปาง และเคลื่อนขบวนต่อไปยังจังหวัดแพร่ จังหวัดน่าน จังหวัดลำพูน จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดตาก จังหวัดพะเยา จังหวัดเชียงราย และไปสิ้นสุดโครงการที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี ข้าราชการ พนักงาน ประชาชนทั่วไป ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หัวหน้าส่วนราชการทั้งในระดับจังหวัด และอำเภอ เจ้าหน้าที่ของส่วนราชการ ทุกสังกัด ผู้นำชุมชน นักเรียน นิสิตและนักศึกษาเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว
4.2 การจัดกิจกรรม "วันรณรงค์ให้ปลอดควันพิษจากไฟป่า” (24 กุมภาพันธ์ ของทุกปี)
4.3 การประชาสัมพันธ์อื่นๆ เช่น ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชน ป้ายประชาสัมพันธ์เอกสารเผยแพร่ การจัดนิทรรศการ การให้ความรู้แก่นักเรียน นักศึกษา และประชาชน
5.การใช้เทคโนโลยีและสารสนเทศในการปฏิบัติงานควบคุมไฟป่า
กรมป่าไม้ ได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) ในการปฏิบัติงานควบคุมไฟป่าโดยการใช้ข้อมูลจุดพิกัดความร้อน (Hotspot) ในการติดตามการเกิดไฟป่า และการใช้เครื่องมือหาค่าพิกัด GPS รวมถึงการรายงานและติดตามผลการปฏิบัติงานผ่านช่องทางเว็บไซต์ และแอปพลิเคชั่นไลน์
นายสมชัย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากแผนมาตรการในการดำเนินงานที่กรมป่าไม้ได้กล่าวมา ข้างต้นแล้ว กรมป่าไม้ ยังได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการช่วยกันสอดส่องดูแลมิให้มีการเข้าบุกรุกยึดถือ ครอบครองพื้นที่ป่าที่เสียหายจากการเกิดไฟป่า รวมถึงการจุดเผาวัชพืชทางการเกษตร/ต่อซังข้าว ซึ่งอาจจะเป็นต้นเหตุของการเกิดไฟป่าได้ โดยกรมป่าไม้เองได้ประสานความร่วมมือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ทหาร กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เครือข่ายความร่วมมือในการควบคุมไฟป่า และ อปท. ในการดำเนินงานป้องกันและควบคุมไฟป่าเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุด พร้อมทั้งขอความร่วมมือประชาชนทั่วไปหากพบเห็นการเกิดไฟป่าบริเวณใด สามารถแจ้งกลับมาที่สายด่วนกรมป่าไม้ หมายเลข 1310 กด 3 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะรับเรื่องและประสานงานไปยังหน่วยงานที่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ และเข้าควบคุมสถานการณ์ได้ทันเวลา
ข่าวเด่นในกระทรวงอื่นๆ :
