
เมื่อวันที่ 15- 16 พฤศจิกายน 2556 นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในงาน "ทำจิตให้ใส กลั่นใจให้เป็นบุญ ทำฝ้ายสายบุญ จุลกฐินล้านนา วัดผาลาด เพื่อสมทบทุนบูรณะพระวิหาร และหอพระพุทธรูปหน้าผา ณ วัดผาลาด (สกทาคามี) ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
โดยกิจกรรมภายในงานเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2556 ประกอบด้วย กางหูกเส้นฝ้ายเส้นยืน , ตกแต่งจัดเตรียมบริวารกฐิน , พิธีเก็บฝ้าย ศรัทธาตั้งสัจจะอธิษฐาน , ทอเส้นฝ้ายสายบุญ , การแสดงศิลปวัฒนธรรม , การเย็บผ้าจุลกฐิน
ส่วนวันที่ 16 พฤศจิกายน 2556 ประกอบด้วย การแต่งดาผ้าจุลกฐิน , แห่ผ้าจุลกฐิน , พิธีสืบชะตาหลวง ถวายผ้ากฐิน , และถวายภัตตาหารเพล
"จุลกฐิน” คือ คำเรียกการทอดกฐินที่ต้องทำด้วยความรีบด่วน โดยต้องอาศัยความสามัคคีของผู้ศรัทธาจำนวนมาก เพื่อผลิตผ้าไตรจีวรให้สำเร็จด้วยมือภายในวันเดียว กล่าวคือ ต้องเริ่มตั้งแต่เก็บฝ้าย ตัดเย็บ ย้อม และถวายให้พระสงฆ์กรานกฐินให้เสร็จภายในเวลาเช้าวันหนึ่งจนถึงย่ำรุ่งของอีก วันหนึ่ง ดังนั้น โบราณจึงนับถือกันว่า การทำจุลกฐินมีอานิสงส์มาก เพราะต้องใช้ความอุตสาหะพยายามมากกว่ากฐินแบบธรรมดา (มหากฐิน) ภายในระยะเวลาอันจำกัด โดยจุลกฐินนี้ปัจจุบันมักจัดเป็นงานใหญ่ มีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ประเพณีการทอดจุลกฐินนี้ เป็นประเพณีที่พบเฉพาะในประเทศไทย และ ลาว ไม่ปรากฏประเพณีการทอดกฐินชนิดนี้ในประเทศพุทธเถรวาทประเทศอื่น
สำหรับประเทศไทย มีหลักฐานว่ามีการทอดกฐินมาแล้วตั้งแต่สมัยอยุธยา ปัจจุบันประเพณีการทำจุลกฐินนิยมทำกันเฉพาะชุมชนทางภาคเหนือและอีสานเท่า นั้น โดยอีสานจะเรียกกฐินชนิดนี้ว่า "กฐินแล่น”
จุลกฐิน ไม่ได้มีการถูกกล่าวถึงโดยตรงในพระไตรปิฎกแต่มีเรื่องราวในอรรถกกถาธรรมบท แห่งขุททกนิกาย ว่า "ครั้งหนึ่งใกล้จะสิ้นสุดกฐินกาลแล้ว พระอนุรุทธะมีจีวรอันเก่าแก่ขาดมาก พระพุทธเจ้าจึงให้สงฆ์ช่วยกันหา
ผ้าบังสุกุลแต่ก็ไม่เพียงพอ นางเทพธิดาจึงได้เนรมิตผ้าทิพย์มาสมทบให้ ครั้งนั้นก็ได้ช่วยกันทำจีวรอย่างเร่งด่วนเป็นการใหญ่” จึงเป็นมูลเหตุแห่งจุลกฐินในเวลาต่อมา ส่วนจุลกฐินในล้านนามีตำนานมาจากเมืองเชียงตุง ซึ่งกล่าวถึงที่มาของจุลกฐินคล้ายกันกับเรื่องราวใน คัมภีร์อรรถกถา
อานิสงส์จุลกฐิน
การถวายผ้าจุลกฐินแด่พระสงฆ์ เป็นการถวายสังฆทานทางพระพุทธศาสนาอย่างหนึ่ง นับเป็นมหากุศล อันยิ่งใหญ่ อีกทั้งเป็นการสะสมเสบียงเดินทางอันกันดารในวัฏจักรสงสารไว้สำหรับตนเอง และผู้ที่ตนเคารพรักและนับถือ นอกจากนี้ ยังเป็นเกราะเป็นที่พึ่งอาศัยอันเกษมในภายภาคหน้า จะได้เป็นผู้มั่งคั่งสมบูรณ์ เพิ่มพูนทรัพย์จะส่งผลต่อบุตรธิดา ภรรยา บ่าวไพร่ ให้เป็นคนว่านอนสอนง่าย ไม่มีโรคภัย ไม่มีอันตรายแก่โภคทรัพย์ทุกคนจะได้รับบุญบารมี มีข้าทาสบริวาร มีเคหสถาน มีเสื้อผ้าอาภรณ์และมีทรัพย์สมบัติไม่ขัดสนในที่สุด
