รมว.วิเชษฐ์ เยี่ยมพื้นที่อ่าวพร้าว-เกาะเสม็ด ตั้งคณะกรรมการดำเนินการฟื้นฟูโดยด่วน
โพสเมื่อ : 14 ส.ค. 56 09:21:24

           วันนี้ (4 ส.ค.2556) เวลา 13.00 น. นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เข้าตรวจเยี่ยมพื้นที่อ่าวพร้าว-เกาะเสม็ด และรับฟังรายงานสถานการณ์ปัจจุบันจากอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และอธิบดีกรมอุทยาน สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมสั่งการทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวง เร่งบูรณาการสำรวจและประเมินผลกระทบ ความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม จัดทำแผนฟื้นฟูแบบบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน ติดตามสถานภาพทรัพยากรในพื้นที่ในระยะยาว และให้เร่งประชาสัมพันธ์ สร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นต่อประชาชน พร้อมสร้างจิตสำนึก รักษ์สิ่งแวดล้อม
         นายวิเชษฐ์ เปิดเผยว่า กระทรวงฯ ได้จัดตั้งคณะกรรมการติดตาม ประเมินสถานการณ์ แก้ไข และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ได้รับผลกระทบจากคราบน้ำมัน (กรณี ท่อส่งน้ำมันดิบรั่วไหลกลางทะเล จังหวัดระยอง) โดยมีปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานกรรมการ และคณะกรรมการประกอบด้วยผู้บริหารที่เกี่ยวข้องในสังกัดกระทรวง และ บมจ.พีทีที โกล บอล เคมิคอล รวมถึง คณะที่ปรึกษาซึ่งเป็นนักวิชาการอิสระ เช่น รศ.ดร.เผดิมศักดิ์ จารยะพันธ์ ผศ.ดร.ธรรมศักดิ์ ยีมิน เป็นต้น โดยให้คณะกรรมการฯ ชุดนี้ เร่งบูรณาการสำรวจและประเมินผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลว่ามีผล กระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไร พร้อมจัดทำแผนงาน มาตรการและแนวทางเพื่อแก้ไขฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึง กำหนดกรอบแนวทางแก้ไขปัญหาและการป้องกันโดยบูรณาการร่วมกันทุกหน่วยงาน 
         นอกจากนี้ รมว.ทส. ได้กำหนดแนวทางการดำเนินงานของกระทรวงฯ โดยให้รวบรวมฐานข้อมูลทางด้านคุณภาพของระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม วางแผนการสำรวจประเมินผลกระทบ ประเมินความเสียหาย และแนวทางในการฟื้นฟู เรียกร้องค่าเสียหาย และเข้าดำเนินการฟื้นฟูระบบนิเวศให้กลับสู่สภาพปกติโดยเร็ว และมอบหมายอธิบดีในแต่ละกรม เร่งดำเนินการตามบทบาทหน้าที่ที่รับผิดชอบ ดังนี้
          กรมควบคุมมลพิษ ดำเนินการจัดทำแผนการติดตามผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งคุณภาพอากาศและคุณภาพน้ำในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงและพื้นที่ เสี่ยง อย่างต่อเนื่อง มีการเก็บข้อมูลจากในพื้นที่เป็นระยะเวลาที่แตกต่างกันตามความเหมาะสม และทำหน้าที่ประสานงานกับบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ในการให้คำปรึกษาและกำกับดูแลการดำเนินการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม
          กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ดำเนินการสำรวจระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่งอย่างต่อเนื่อง โดยแบ่งเป็น 7 กลุ่มสำรวจ ได้แก่ สมุทรศาสตร์ ปะการัง ระบบนิเวศชายหาด ระบบนิเวศหญ้าทะเล ระบบนิเวศป่าชายเลน สัตว์ทะเล นกหายากและสิ่งแวดล้อม โดยรวมถึงการกำจัดกากของเสีย โดยการติดตามตรวจวัดผลกระทบในแต่ละกลุ่มนั้น จะมีระยะเวลาการดำเนินงานที่แตกต่างกัน แต่จะมีการดำเนินการและรายงานผลอย่างต่อเนื่อง
         และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้เร่งดำเนินการทำความสะอาดคราบน้ำมันให้เสร็จสมบูรณ์ และพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสโดยจะจัดระเบียบพื้นที่เขตบริการใหม่ ทั้งระบบสาธารณูปโภค ระบบจัดการขยะและน้ำเสีย และทำการศึกษา ออกแบบปรับปรุงสิ่งก่อสร้างและภูมิทัศน์บนเกาะเสม็ดทั้งหมดให้กลมกลืนกับ ธรรมชาติ รวมถึง ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
         ในช่วงท้ายนี้ นายวิเชษฐ์ ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานรัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง รวมถึง อาสาสมัครทุกท่าน ที่ร่วมแรงร่วมใจกำจัดคราบน้ำมันในทะเลและบริเวณชายหาดอ่าวพร้าว ณ อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า หมู่เกาะเสม็ดจนใกล้กลับคืนสู่สภาพปกติ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงหัวใจสำคัญของการดูแลสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืน ทั้งการปกป้อง รักษา และฟื้นฟู จากการที่ทุกคนให้ความร่วมมือช่วยกันดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด ล้อมซึ่งถือเป็นสมบัติของชาติ ให้มีความสมบูรณ์ตลอดไป