อาหารสำคัญเสมอสำหรับมนุษย์ โดยแต่ละยุคแต่ละสมัยการบริโภคอาหารมีก็ความแตกต่างกันไป ปัจจุบันผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายรวมไปจนถึงอาหารการกิน วันนี้เราจะพามาดูเทรนด์อาหารและเครื่องดื่มที่มาแรงในปี 2020 กัน
1.โปรตีนแทนเนื้อสัตว์และโปรตีนสายพันธุ์ใหม่
มีการประมาณการว่าในปี 2019 กลุ่มโปรตีนจากพืชและนมพืชมีการเติบโตอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับอาหารสุขภาพประเภทอื่นๆ ตามความนิยมบริโภคอาหารที่มีโปรตีนสูงเพื่อสร้างสมดุลทางโภชนาการทดแทนเนื้อสัตว์ การเสริมสร้างกล้ามเนื้อ รวมถึงการรักษาสุขภาพเพื่อลดความเสี่ยงของโรคที่เกิดจากการบริโภคอาหารประเภทเนื้อสัตว์
โดยอาหารที่เป็นอาหารทดแทนเนื้อสัตว์ ได้แก่ อาหารที่ผลิตจากพืชตระกูลถั่ว เห็ด รวมถึงการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากพืชเมล็ดถั่ว ตลอดจนโปรตีนจากการหมักเชื้อจุลินทรีย์ ซึ่งผลิตโดยไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อมทั้งยังดีต่อสุขภาพ เมื่อประกอบกับการคาดการณ์ถึงภาวะขาดแคลนเนื้อสัตว์ เนื้อที่ใช้วิธีการปลูกขึ้นมาจึงจะกลายเป็นอาหารหลักในไม่ช้า
ข้อดีของ Plant Based Food คือ
- เป็นทางเลือกสำหรับผู้บริโภคในตลาดที่ต้องการบริโภคโปรตีนที่มีคอเลสเตอรอลต่ำกว่าเนื้อสัตว์ทั่วไป
- ผู้บริโภคได้รับสารอาหารอย่างโปรตีนครบถ้วนโดยไม่ต้องทำบาปด้วยการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
- ลดการแพร่กระจายเชื้อโรคต่างๆจากสัตว์สู่คน
- ช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมทางอ้อม อีกทั้งช่วยให้ระบบนิเวศกลับมามีความสมบูรณ์และสมดุลมากขึ้น
2.ลดน้ำตาล เพิ่มความหวานที่ดีต่อสุขภาพ
เพราะกระแสรักสุขภาพของประชาชนและการขึ้นภาษีน้ำตาลของภาครัฐเริ่มส่งผลอย่างเห็นได้ชัด ผู้คนจึงเริ่มมองหาแหล่งความหวานทางเลือกใหม่ที่ไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพเพื่อตอบรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคและควบคุมต้นทุนการผลิตไปพร้อมๆกัน
ในขณะเดียวกันก็ใช้งานวิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรม สร้างความหวานที่ดีต่อสุขภาพเข้ามาช่วย เช่น การเปลี่ยนโครงสร้างอนุภาคของน้ำตาลเพื่อให้ละลายบนลิ้นได้เร็วกว่าเดิม ซึ่งผู้บริโภคจะได้รับรสชาติความหวานเท่าเดิม อาหารมีรสชาติเหมือนเดิม 100% แต่สามารถลดน้ำตาลในการผลิตได้มากถึง 40% เพราะฉะนั้นการเลือกใช้แหล่งให้ความหวานแทนน้ำตาลจึงเป็นที่นิยมในหมู่คนรักสุขภาพ
3.อาหารพร้อมทานเพื่อสุขภาพ
แม้กระแสรักสุขภาพและการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพได้กลายเป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นมาหลายปี แต่การรับประทานอาหารพร้อมทานเพื่อสุขภาพก็ยังคงเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง โดยคำนึงถึงปัจจัย 5 ประการ คือ มีปริมาณน้ำตาลน้อย ไขมันอิ่มตัวต่ำ ไขมันรวมต่ำ มีใยอาหาร และมีโปรตีนในปริมาณที่เพียงพอ โดยมีการคาดการณ์ว่าตลาดอาหารพร้อมทานเพื่อสุขภาพในระดับโลกจะมีมูลค่าประมาณ 10,551 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2021
โดยกลุ่มผู้บริโภคจะเป็นกลุ่มคนรุ่น Millennial อายุ 18-34 ปี ที่รับกระแสรักสุขภาพและตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรอาหารรวมไปถึงสิ่งแวดล้อม และกลุ่ม Baby Boomers ที่มีอายุ 51-69 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่ต้องดูแลสุขภาพและปรับเปลี่ยนโภชนาการให้เหมาะสมกับวัย
4.อาหารสำหรับผู้สูงอายุและโภชนาการแบบเฉพาะบุคคล
การเป็นสังคมผู้สูงอายุของประชากรโลก ทำให้สถานการณ์ของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มต้องให้ความสำคัญกับผู้บริโภคกลุ่มนี้มากขึ้น โดยมีการคาดการณ์ว่าผู้สูงวัยอายุ 60 ปีขึ้นไปจะเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 12 เป็นร้อยละ 22 ของจำนวนประชากรโลกทั้งหมด นำมาซึ่งความต้องการด้านโภชนาการที่เหมาะสมกับสุขภาพ วัย และโรคประจำตัว ซึ่งจะต้องลดความหวาน เค็ม มัน เสริมโปรตีน เสริมแคลเซียม และย่อยง่าย
โดยตัวอย่างอาหารเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุนี้ ควรออกแบบโครงสร้างอาหารสูตรสมดุลโปรตีนสูงที่มีผลดีต่อสุขภาพหลังการย่อยและการดูดซึม อาหารผงสำหรับชงดื่มที่ให้พลังงานแก่ร่างกายในแต่ละมื้อประมาณ 430 – 460 กิโลแคลอรี และมีสัดส่วนของพลังงานจากคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน มีเกลือแร่ วิตามิน รวมถึงมีใยอาหารในสัดส่วนที่เหมาะสมให้คุณค่าทางโภชนาการตามที่ร่างกายต้องการไม่มากหรือน้อยเกินไป
5.อาหารที่ใช้วัตถุดิบและส่วนผสมจากท้องถิ่น
สืบเนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมท้องถิ่น หรือความแปลกใหม่อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะกลุ่ม ส่งผลให้อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มต้องมองหาวัตถุดิบและส่วนผสมที่มีในเฉพาะบางพื้นที่เข้ามาใช้ในอุตสาหกรรม โดยคุณค่าของความเป็นท้องถิ่นจะช่วยสร้างมูลค่าของสินค้าได้มากขึ้น ส้มบางสายพันธุ์ ข้าวบางสายพันธ์ กล้วยบางสายพันธ์ หรือแม้แต่การเพาะปลูกเก็บเกี่ยวและผลิตในเฉพาะบางพื้นที่ล้วนสร้างเรื่องราวและคุณค่าได้อย่างมหาศาล
6.เครื่องดื่มสีใส แต่งกลิ่น แต่งรส สดชื่น
เมื่อตลาดเครื่องดื่มเริ่มอิ่มตัว การสร้างสรรค์สินค้าใหม่จึงเป็นอีกทางออกที่สร้างมูลค่าได้อย่างน่าสนใจ หลังจากที่ตลาดเดิมอย่างน้ำอัดลมกำลังถึงจุดอิ่มตัวจากกระแสรักสุขภาพ จึงเกิดตลาดใหม่เป็นเครื่องดื่มสีใส แต่งกลิ่น แต่งรส และให้ความสดชื่น ไปจนถึงใส่ส่วนผสมที่ให้คุณค่าทางอาหาร ซึ่งสีใสของน้ำจะให้ความรู้สึกว่าเป็นเครื่องดื่มที่ใกล้เคียงกับน้ำเปล่า ในขณะเดียวกันก็ให้รสชาติและความสดชื่นจากการปรุงแต่งผ่านส่วนผสม ทั้งยังช่วยเสริมสุขภาพอีกด้วย
โดยการแข่งขันของตลาดนี้กำลังคึกคักเป็นอย่างมาก จะเห็นได้จากความหลากหลายของแบรนด์บนชั้นวางเครื่องดื่มสีใสที่อยู่ในร้านสะดวกซื้อ ซึ่งแน่นอนว่าเทรนด์อาหารแห่งอนาคตปี 2020 ที่เป็นเครื่องดื่มสีใสนี้ กลุ่มผู้บริโภคที่นิยมน่าจะเป็นกลุ่มเด็ก วัยรุ่น ไปจนถึงกลุ่มคนทำงานตอนต้นนั่นเอง
7.เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
จากที่ผู้บริโภคเครื่องดื่มเริ่มมองหาสินค้าที่มีน้ำตาลน้อยไปจนถึงไม่มีน้ำตาลแต่รสชาติอร่อยมาเป็นทางเลือกเพื่อสุขภาพ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพจึงถูกคิดค้นขึ้นมากมายในยุคสมัยนี้ โดยเทรนด์ที่กำลังเป็นที่นิยมคือการเพิ่มส่วนผสมต่างๆเข้าไปเสริมสุขภาพ เช่น ส่วนผสมเพื่อบำรุงสมองและการทำงานของระบบประสาท ซึ่งเป็นความต้องการของผู้บริโภคทุกกลุ่มวัย นอกจากนี้การเติมโพรไบโอติกและพรีไบโอติกรวมไปถึงเส้นใยเพื่อช่วยการทำงานของระบบลำไส้ก็ยังเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ อันเนื่องมาจากปัญหาในการทานผักและผลไม้น้อยตามไลฟ์สไตล์ที่เร่งด่วน ปิดท้ายกับการเติมส่วนผสมที่ช่วยเรื่องความสวยงามและชะลอวัย อย่างเช่น คอลลาเจน ซิงค์ วิตามินซี ที่แพร่หลายอยู่ในอาหารและเครื่องดื่มในปัจจุบัน
8.น้ำดื่มบรรจุขวดและน้ำมะพร้าว
ปัจจุบันน้ำดื่มบรรจุขวดกำลังเป็นที่นิยมแพร่หลาย เนื่องจากผู้บริโภคมีความต้องการน้ำดื่มที่สะอาดและมีคุณภาพ พร้อมปัจจัยหนุนจากอากาศที่ร้อนขึ้นเรื่อยๆ ทำให้น้ำดื่มบรรจุขวดเป็นที่ต้องการในตลาดเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะน้ำมะพร้าวบรรจุขวดที่ดื่มแล้วชื่นใจ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดแบรนด์น้ำมะพร้าวมากมายในตลาดและได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องไปจนถึงอนาคต โดยประเทศในกลุ่มเอเชีย-แปซิฟิกและอเมริกาใต้ เป็นกลุ่มที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังการคาดการณ์กันอีกว่ามูลค่าตลาดน้ำมะพร้าวทั่วโลกมีแนวโน้มจะเติบโตขึ้นถึง 26.8% – 50% ภายในปี 2020
9.การแปรรูปแมลง
แมลงเป็นอาหารโปรตีนสูงที่สามารถบริโภคทดแทนเนื้อสัตว์ได้ โดยแป้งที่ได้จากการทำแมลงให้เป็นผง 100 กรัม จะให้โปรตีนได้สูงถึง 50% ในขณะที่เนื้อสัตว์อื่นๆจะให้โปรตีนที่ 30% เท่านั้น ที่สำคัญแมลงใช้ปัจจัยในการเติบโตน้อยมาก ทั้งยังมีการเพาะเลี้ยงที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่าการเลี้ยงสัตว์ชนิดอื่นๆ และแมลงยังสามารถเพาะเลี้ยงให้เป็นอาหารที่ไร้กลูเตน เหมาะสำหรับคนแพ้กลูเตนที่มีอยู่มากมายในปัจจุบันได้ด้วย
ธุรกิจแมลงที่รับประทานได้ทั่วโลกมีมูลค่าสูงมากโดยเอเชียเป็นตลาดหลักในการบริโภคและส่งออก มีสัดส่วนประมาณ 40% ของโลก ซึ่ง 5 ปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมแมลงเติบโตปีละประมาณ 20% และประเทศไทยเป็นตลาดที่มีการส่งออกแมลงไปขายทั่วโลก มีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาทำฟาร์มเพาะเลี้ยงซึ่งมีศักยภาพที่จะเติบโตต่อไป