โลกที่ร้อนขึ้น 4 องศา หน้าตาเป็นอย่างไร
โพสเมื่อ : 18 มี.ค. 56

โลกที่ร้อนขึ้น 4 องศา หน้าตาเป็นอย่างไร

 

หลายคนได้รับรู้ข้อมูลจากรายงานธนาคารโลกมาแล้วว่า ณ วันนี้ อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้นแล้ว 0.8 องศาเซลเซียสเมื่อเทียบกับยุคก่อนอุตสาหกรรม และหากไม่มีมาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างจริงจัง ภายในปี 2100 อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกอาจสูงขึ้นจากยุคก่อนอุตสาหกรรม 4 องศาเซลเซียส
 
       ตัวเลข “4 องศา” บอกอะไรเรา? หลายคนอาจคิดว่าชีวิตทุกวันนี้อยู่ในห้องแอร์  25 องศา ออกไปข้างนอกเจออากาศ 35 องศาก็ยังอยู่ได้อย่างเป็นปกติสุข แค่ 4 องศาจะไปน่ากลัวอะไร

แต่ “4 องศา” กำลังบอกเราว่าอุณหภูมิที่สูงขึ้น ไม่ใช่เพียงตัวเลขที่เพิ่มขึ้นของ ณ วันนี้ เดือนนี้ หรือปีนี้เท่านั้น แต่มันหมายถึงสภาพภูมิอากาศโดยรวมที่เปลี่ยนไป จนกระทบกับระบบนิเวศโดยรวมทั้งหมด และเป็นภัยคุกคามระยะยาว เราไปดูกันว่า จากข้อสรุปของธนาคารโลก หากอุณหภูมิโลกสูงขึ้น 4 องศา พื้นที่ต่างๆ ทั่วโลกจะได้รับผลกระทบอะไรบ้าง

  • การเกษตร ทรัพยากรน้ำ สุขภาพมนุษย์ ความหลากหลายทางชีวภาพและบริการทางนิเวศจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง และอาจทำให้มีการย้ายถิ่นฐานของประชากรขนาดใหญ่และส่งผลต่อความมั่นคงของมนุษย์ เศรษฐกิจ และระบบการค้า
  • ภัยแล้ง (ช่วงเวลาที่ฝนไม่ตกยาวนานขึ้น) และความแห้งแล้ง (ปริมาณฝนที่ตกน้อยกว่าค่าเฉลี่ยอย่างถาวร)  มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในประเทศเขตร้อน
  • ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้น 0.5 – 1 เมตร ภายในปี 2100 หรือสูงกว่านั้น จุดอันตรายของระดับน้ำทะเลที่จะสูงขึ้นท่วมเมืองชายฝั่ง คือ ทะเลแคริบเบียน เวเนซูเอลา โมซัมบิก เกาะมาดากัสการ์ อินเดีย บังคลาเทศ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย
  • ภาวะคลื่นความร้อนรุนแรง ซึ่งจะเกิดขึ้นน้อยครั้งในหลายร้อยปี กำลังจะเกิดขึ้นเกือบจะทุกปีในหลายภูมิภาค เช่น เมดิเตอร์เรเนียน แอฟริกาเหนือ ตะวันออกกลาง และบางส่วนของสหรัฐอเมริกา
  • ภูมิภาคที่เปราะบางที่สุดคือเขตร้อน เกาะเล็กเกาะน้อยหลายแห่งจะไม่สามารถเป็นที่อยู่อาศัยได้อีกต่อไป

      ปะการังกำลังจะสูญพันธุ์
ความเป็นกรดของน้ำทะเลจะมีอัตราสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ สร้างความเสียหายแก่แนวปะการัง ซึ่งเป็นเหมือนปราการปกป้องพื้นที่ชายฝั่ง และเป็นที่อยู่อาศัยของปลาจำนวนมาก
ปัจจุบัน      อุณหภูมิสูงขึ้น 0.8 องศา ปะการังฟอกสีเพิ่มมากขึ้น
2030       อุณหภูมิสูงขึ้น 1.4 องศา การเติบโตช้าลง
     2060         อุณหภูมิสูงขึ้น 2.4 องศา ปะการังเริ่มละลาย
     2100       อุณหภูมิสูงขึ้น 4 องศา มีแนวโน้มสูญพันธุ์

     สิ่งมีชีวิตในป่าฝนแอมะซอน
ปัจจุบัน อุณหภูมิสูงขึ้น 0.8 องศา ยังเป็นที่อยู่ของความหลากหลายทางชีวภาพที่หนาแน่น
2050 อุณหภูมิสูงขึ้น 2 องศา ไฟป่าอาจเพิ่มขึ้นเท่าตัว
      2100 อุณหภูมิสูงขึ้น 4 องศา การเปลี่ยนแปลงระดับใหญ่ไปสู่พื้นที่ป่าที่มีความหลากหลายทางชีวภาพต่ำ

     ทรัพยากรน้ำ
    อุณหภูมิที่สูงขึ้น 2 องศา ทำให้ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านในแต่ละปีลดลง 20-40 เปอร์เซ็นต์ ในแม่น้ำดานูบ  มิสซิสซิปปี แอมะซอน และเมอร์เร ดาร์ลิง บาซิน
    อุณหภูมิที่สูงขึ้น 4 องศา ความแห้งแล้งมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นเป็นเท่าตัว

สำหรับทวีปเอเชีย ธารน้ำแข็งส่วนใหญ่ของเทือกเขาหิมาลัยจะละลายหายไปหมด เป็นภูมิภาคที่เจอภัยรุนแรงทั้งน้ำท่วมและภัยแล้ง สูญเสียแผ่นดินเนื่องจากระดับน้ำทะเลสูงขึ้น แน่นอนว่ารวมถึงประเทศไทยด้วย   ในบ้านเราเอง ยังมีหลายหน่วยงาน หลายความพยายามที่จะประคองปัญหาไว้ไม่ให้รุนแรงมากขึ้นในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการร่วมเป็นสมาชิกความตกลงระหว่างประเทศเรื่องสภาพภูมิอากาศ  แนวคิดตลาดคาร์บอน ฉลากคาร์บอน พันธบัตรป่าไม้ แผนอนุรักษ์พลังงาน แนวคิดเศรษฐกิจสีเขียว แนวคิดสังคมคาร์บอนต่ำ  แต่เมื่อแนวคิดต่างๆ ยังไม่สามารทำให้มนุษย์ปรับเปลี่ยนความรับรู้และพฤติกรรมได้ รายงานข้อเสนอแก้ปัญหาโลกร้อนแต่ละปีอาจกลายเป็นการไล่ตามปัญหาอยู่ช่วงตัวเสมอ เพราะปัญหาโลกร้อนไม่ใช่เรื่องของตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่เป็นปัญหาใหญ่ที่รอการแก้ไขจากทุกคน

ที่มา : Turn Down the Heat: Why a 4°C Warmer World Must Be Avoided - World Bank


เรียบเรียงโดย : กรวิกา