ปรากฎการณ์น้ำทะเลมีสีเขียว บริเวณแหลมสมิหลา “แพลงก์ตอนบลูม” [ดู : 723]
โพสเมื่อ : วันที่ 18 ธันวาคม 2558

         เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2558 เวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 16 จึงลงพื้นที่ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง (หน่วยงานในสังกัดกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง) ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีปรากฎการณ์น้ำทะเลมีสีเขียว บริเวณแหลมสมิหลา ซึ่งคาดว่าเป็นปรากฎการณ์ “แพลงก์ตอนบลูม” สรุปดังนี้

         1. พบน้ำทะเลเปลี่ยนสีเป็นสีเขียว บริเวณแหลมสนอ่อน ยาวไปจนถึงหาดชลาทัศน์ (ก่อนถึงชุมชนเก้าเส้ง) เป็นระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร และไม่พบสัตว์น้ำตายบริเวณชายหาดและในทะเลชายฝั่ง

         2. ผลการตรวจสอบตัวอย่างน้ำทะเล ทั้ง 3 จุด ซึ่งเก็บตัวอย่างจากบริเวณแหลมสนอ่อน แหลมสมิหลา และหาดชลาทัศน์ โดยศูนย์วิจัยฯ พบว่า เป็น สาหร่ายเซลล์เดียวขนาดเล็ก หรือ แพลงก์ตอนพืช (phytoplankton) ชนิด Noctiluca scintillans จัดอยู่ในกลุ่มแพลงก์ตอนพืชที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์น้ำเปลี่ยนสี แต่เป็นกลุ่มที่ไม่สร้างสารพิษ สามารถพบแพร่กระจายได้ดี ในแหล่งน้ำเค็มบริเวณเขตชายฝั่ง โดยเมื่อเกิดการสะพรั่งของแพลงก์ตอนพืชชนิดนี้จะทำให้น้ำทะเลเปลี่ยนเป็นสีเขียวหรือสีเขียวอมเหลือง ทั้งนี้ปรากฎการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นเพียง 2-3 วัน

        สาเหตุที่แพลงก์ตอนมีการเจริญเติบโตและเพิ่มปริมาณอย่างรวดเร็วนั้น เนื่องจากน้ำทะเลในบริเวณนั้นมีปริมาณธาตุอาหารสูง โดยเฉพาะไนเตรตและฟอสเฟต ประกอบกับสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมทั้งในเรื่องของแสงแดด อุณหภูมิ และความเค็มของน้ำทะเล จึงทำให้แพลงก์ตอนเกิดการสังเคราะห์แสงและเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว จะส่งผลให้ออกซิเจนในน้ำลดลงอย่างรวดเร็ว เมื่อแพลงก์ตอนบางส่วนเริ่มตายจะตกลงสู่พื้นท้องน้ำ ซึ่งแบคทีเรียก็ต้องใช้ออกซิเจนเพื่อย่อยสลายสิ่งเน่าเปื่อย น้ำเริ่มเน่าเสีย และส่งผลกระทบได้

        ล่าสุดเมื่อเวลา 8.30 น. วันที่ 18 ธันวาคม 2558  เจ้าหน้าที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 16 ได้ลงพื้นที่ติดตาม ณ บริเวณหาด สมิหลา  พบว่า  สีของน้ำทะเล  ไม่มีสีเขียว และไม่พบคราบสีเขียวริมชายหาด